การเรียนรู้อุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่

Farming

การเกษตรกรรม คือสิ่งที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีพัฒนาการเรื่อยมา ปัจจุบัน เพื่อตอบสนองต่อจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น แก้ปัญหาขาดแคลนอาหาร ทดแทนทรัพยากร ทำให้มีการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานกับการทำเกษตร ที่นำไปสู่อุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างมาก

วิธีทางการเกษตร เป็นกระบวนการที่นำไปสู่การผลิตสิ่งที่จำเป็นสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตมนุษย์ นั่นคืออาหาร ในศตวรรษที่ 17-19 เมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมอันรุ่งโรจน์ของอังกฤษได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรป ส่งผลให้โลกของวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมได้เจริญก้าวหน้าไปมาก ทำให้ปัญหาเรื่องอาหารไม่พอเพียงในหลายประเทศของยุโรปและอเมริกาเริ่มหมดไป แม้ว่าผู้คนจะเผชิญความอดอยากระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม แต่นั่นก็คือบทเรียนสำคัญทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ที่ยิ่งทำให้หลายประเทศเห็นความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมมากขึ้น

ประเทศที่พัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างถึงขีดสุดมาตั้งแต่ 200 ปีก่อน จึงมุ่งไปที่กระบวนการผลิตให้ได้ทีละจำนวนมากๆ การเกษตรสำหรับประเทศเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการปลูกพืช ปลูกผักสวนครัว ทำไร่นา ทำสวน เพียงเพื่อยังชีพหรือแบ่งขายเฉพาะในครัวเรือนเท่านั้น ผู้ผลิตนักลงทุนในประเทศอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเข้ามาครอบครองช่องทางการกระจายผลผลิตทางการตลาด

Two-crop-agriculture

แต่ผลเสียก็มีอยู่เช่นกัน เพราะในขณะที่วิทยาศาสตร์ช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มปริมาณมากและส่งออกขายได้ นำรายได้มหาศาลข้ามา แต่เกษตรกรที่ทำงานในไร่นาก็ยิ่งน้อยลง ด้วยว่าไม่สามารถต้านทานกระแสโรงงานผลิตรายใหญ่ได้ ลูกหลานของเกษตรกรในศตวรรษที่ 18-19 จึงผันตัวเข้าสู่เมือง หรือทำงานในโรงงาน มากกว่าจะสืบทอดกิจการไร่นาต่อ นี่ยังรวมไปถึงงานที่ยากลำบากและเสี่ยงชีวิต ตั้งแต่เหมืองแร่ โรงถ่านหิน อู่ต่อเรือ โรงกลึงเหล็ก แต่แรงงานเหล่านี้รับค่าจ้างรายได้ที่ต่ำมาก การใช้ชีวิตก็แออัด ไม่ถูกหลักสุขอนามัยเลย ในที่สุดหลายประเทศก็พยายามเปลี่ยนแปลงลักษณะดังกล่าวนี้

ในศตวรรษที่ 20 วิทยาศาสตร์ได้ทำให้การเกษตรกรรมในภาคประชาชนสามารถขับเคลื่อนไปเองได้มากขึ้นโดยไม่ต้องอิงแต่กับผู้ผลิตหรือโรงงานรายใหญ่เสมอไป เพราะเกษตรกร 1-2 คน สามารถอาศัยการผสมพันธุ์พืชและสัตว์ เทคนิค เครื่องมือบางอย่างในการควบคุมผลผลิตให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังนำไปสู่การคิดค้นเครื่องมือและยาเพื่อกำจัดวัชพืชที่มีประสิทธิภาพสูงได้ ทำให้เกษตรกรที่เคยเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้ มีโอกาสทุ่มเทกับการทำงานได้นั่นเอง แม้ว่าสารเคมีเหล่านั้นจะมีการยืนยันแล้วว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ทุกวันนี้ก็มีเลือกให้หลายแบบ รวมถึงวิทยาการที่ลดสารเคมีลง นอกจากนี้ยังรวมถึง ความสามารถในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งแต่เดิมทีจะมีผลกระทบต่อผลผลิตอย่างมาก แต่วิทยาศาสตร์ประยุกต์ก็เข้ามาช่วยทำให้ผลไม้หลายประเภทสามารถเติบโตนอกฤดูกาลของตนเองได้

อุตสาหกรรมการเกษตรที่เคยเป็นคำห่างไกลจากเกษตรกรหรือรายย่อย ก็ได้กลายเป็นกระแสนิยมใหม่ที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อสร้างฐานะและโอกาสของตนเอง หรือใช้ต่อรองกับนายทุนรายใหญ่ได้มากขึ้น